2009/04/22

"ช่วยแนะนำร้าน.....ลายแทงให้เพื่อนๆ นักชิมได้เป็นอย่างดี"

ลา ปาโลมา
เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่ชื่อดังมากเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว อยู่ย่านซอยมเหศักดิ์ ถือเป็นร้านในดวงใจของหลายๆ คน ต่อมาย้ายมาอยู่ที่อาคารทรินิตี้ ซอยละลายทรัพย์ ประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว จึงย้ายมาอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 26 แล้วหายไป 4-5 ปี วันนี้ ลา ปาโลมา กลับมาในโฉมใหม่ เป็นบ้านสีขาวหลังใหญ่งดงาม บรรยากาศหรูหราแต่เป็นกันเอง
อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เพิ่งเปิดบริการเมื่อกลางๆ ปีนี้เอง ที่สำคัญก็คือได้เชฟฝีมือดีคนเก่าจากยุคแรกที่มเหศักดิ์มาดูแลเมนูให้ และลูกค้าขาประจำที่ยังติดใจรสชาติก็กลับมาเหมือนเดิม หนึ่งในเมนูที่ลูกค้าชื่นชอบมาโดยตลอดก็คือ สเต๊ก มีให้เลือกหลายอย่าง เป็นสเต๊กที่เจ้าของร้านท้าให้มาลอง ฟัวกราส์ หรือ ตับห่าน (Foie Gras) เป็นอีกร้านที่ทำตับห่านได้เยี่ยมมาก ปูอลาสก้า หอยแมลงภู่ไวน์ขาว หอยเอสคาโก เนื้อ และ กวางแดดเดียว เป็นต้น นอกจากนั้นช่วงปีใหม่นี้เขายังมีเมนูพิเศษด้วย สอบถามที่โทร.0-2662-6841

ข้าวมันไก่ริมคลอง
อยู่ริมคลองบางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โทร.0-3481-2444 เจ้าของชื่อลุงโฮ เป็นจีนไหหลำจากสิงคโปร์ มาอยู่เมืองไทยจนได้เมียเป็นคนไทย หอบวิชาทำข้าวมันไก่มาขายเป็นเวลาสิบๆ ปีแล้ว เลี้ยงไก่เองเป็นพันตัว มีใบอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ถูกต้อง ตอนไก่เองและต้มไก่เอง ไก่ที่นี่มีทั้งไก่ตอนและไก่สาว เสิร์ฟพร้อมเครื่องใน เลือด และซุปร้อนๆ ใส่สาหร่าย น้ำจิ้มรสปาน กลางแต่มีพริกและขิงให้ปรุงตามใจ ไก่เนื้อนุ่มเนียน ข้าวมันไม่แข็ง ไม่แฉะ ไม่เลี่ยน ร้านเปิด 6 โมงเช้า ประมาณบ่าย 2-3 โมงก็หมด ปกติจะหยุดวันอาทิตย์และจันทร์ แต่ควรโทรศัพท์สอบถามล่วงหน้า เพราะถ้าไก่โตไม่ทัน ไม่ได้ขนาดที่ต้องการก็จะหยุดขายประมาณ 2-3 สัปดาห์

ฮาร์วีย์ เป็นร้านทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ (Talk of the Town)
ของเมืองกรุงในยุคนี้ อาหารอร่อย ไวน์ราคาไม่แพง บรรยากาศดี บริการเยี่ยม เป็นร้านอาหารสไตล์แคลิฟอร์เนีย (California Cuisine) ซึ่งในบ้านเราแทบจะไม่มีเลย ลักษณะอาหารเป็นสไตล์อิสระ เชฟสามารถทำอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำตามสูตรในตำราอาหาร แต่ต้องรู้จักพลิกแพลง ที่สำคัญเป็นอาหารที่ไม่หนักเหมือนฝรั่งเศสหรืออิตาเลียน เมนูมีให้เลือกมากมาย เช่น ตับห่าน (Pan-fried foie gras) เป็นร้านที่ทำฟัวกราส์ได้อร่อยอีกร้านหนึ่งในเมืองกรุง ทรัฟเฟิล ซุป (Truffle soup) หรือซุปเห็ดทรัฟเฟิล ที่ไม่มีในเมนูแต่จะทำพิเศษถ้าลูกค้าต้องการ เฟตตูชินี่ สแกลล็อป ซี่โครงแกะ และที่พลาดไม่ได้ ริบอายจากออสเตรเลีย (Rib eye Australian Beef) เป็นเนื้อวัวที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ควบคุมเรื่องของอาหาร สภาพแวดล้อม แหล่งน้ำ ไม่ใช้สารเคมีทุกชนิด ขุนด้วยข้าวโพดหวาน 300 วัน ร้านอยู่ในสุขุมวิท 55 หรือทองหล่อ เข้าซอยทองหล่อ 9 ไปประมาณ 200 เมตร เข้าทางซอยสุขุมวิท 53 ก็ได้ เปิดบริการทุกวันโทร.0-2712-9911

จิ๋มแดง
อยู่ทางเข้าบ้านหนองข้าวเหนียว ก่อนถึงอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ปราณบุรี สามารถสอบถามเส้นทางได้ที่โทร.0-3255-9160 ลักษณะของร้านง่ายๆ สบายๆ ตามสไตล์ชาวเล วันหยุดสุดสัปดาห์ลูกค้าจะมากจอดรถจนแถวยาวเหยียด และทะเบียนกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น ชื่ออันเป็นที่มาของร้านคือ ผู้เป็นภรรยาชื่อจิ๋ม สามีชื่อแดง รวมกันเป็นจิ๋มแดง เมนูเด็ดของร้านเขียนไว้ข้างฝา เลือกสั่งตามความชอบ อร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดยอดมาก มีคนพยายามไปขอซื้อแต่ไม่สำเร็จ จานเด็ดที่ลูกค้าสั่งกันมากคือ "ฉลามหูดำผัดฉ่ากุ้งแชบ๊วยเผา หมึกไข่นึ่งมะนาว ปลาเก๋าสามรส ปลาสำลีสามรส ยำกระดุมหอย หมึกแดดเดียว หมึกย่าง ปลากะพงพล่า กรรเชียงปูผัดเต้าเจี้ยว ต้มยำรวมมิตร และ ไก่บ้านคั่วข่า เป็นต้น ร้านชื่อแปลก ร้านอาหารชื่อแปลกๆ มีอยู่หลายแห่ง บางร้านขายชื่อแต่อาหารไม่เท่าไร แต่ 3 ร้านต่อไปนี้ทั้งชื่อแปลกและอร่อย ร้านแรก "ครัวแสงดาวเสือ” ตั้งอยู่ริม ถ.เลียบวงแหวนตะวันออก (บางนา-บางปะกง) ช่วงระหว่าง ถ.รามอินทรากับถ.เสรีไทย เมนูเด็ด เช่น ปลาแสงดาว ปลาตะเพียนไร้ก้าง กุ้งแม่น้ำผัดน้ำมะขาม ปูนิ่มผัดฉ่า และ แกงส้มชะอมไข่ เป็นต้น ร้าน พ่อครัวเถื่อน ยอดนักตุ๋น” อยู่ในซอกเล็กๆ ระหว่างซอยเจริญกรุง 89-91 เข้าไปสุดซอย มีทั้งอาหารไทยและจีน เช่น ซุปเนื้อ ซุปไก่ ซี่โครงหมูตุ๋นหัวไชเท้า ไชซิมตุ๋นซี่โครงหมู ขาไก่ตุ๋นเห็ดหอมยาจีน เป็ดตุ๋นฟักมะนาวดอง เยื่อไผ่ตุ๋นหอยทะเล ตีนเป็ดน้ำแดง ปลาน้ำแดง หน่อไม้ทะเลน้ำแดง ส่วน ไก่ดำตุ๋นยาจีน ต้องสั่งล่วงหน้า เพราะต้องใช้เวลาในการต้มตุ๋นนานและทำเฉพาะที่มีคนสั่งเท่านั้น โทร.0-2289-5105 ร้าน "สนองคุณ” แปลกทั้งชื่อและการขาย แต่ก็ขายมากว่า 30 ปีแล้ว ไม่มีหน้าร้าน ต้องสั่งทางโทรศัพท์อย่างเดียว เมนูอร่อยและหากินยากคือ เมี่ยงลาวข้าวตัง รสกลมกล่อม สาคูไส้หมู สาคูไส้ปลา และ ข้าวแช่ชาววัง เป็นต้น โทร.08-1427-9929

เลอ เปร กริลล์ "เลอ เปร กริลล์” (Le Pre Grill)
อยู่กลางซอยหลังสวนซอย 4 เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม (Home-style French Cuisine) จากปารีส ซึ่งในบ้านเรามีน้อย ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งเศสสไตล์ใหม่ เมนูเด็ดเช่น เครปปลาแซลมอน หรือ แพนเค้กปลาแซลมอน เนื้อตุ๋นแบบฝรั่งเศส ตับเป็ดสไตล์ฝรั่งเศส สลัดชีสนมแพะจากฝรั่งเศส เนื้อตุ๋นไวน์แดงสไตล์เบอร์กันดี ปลากะพงซอสเนย เป็นต้น เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) โทร.0-2253-5919

ลา บูก้า "ลา บูก้า” (La Buca)
อยู่ในสุขุมวิทซอย 1 ใกล้กับที่จอดรถ รพ.บำรุงราษฎร์ เจ้าของเป็นคุณลุงชาวเมืองมิลาน มาอยู่เมืองไทย 12-13 ปี เป็นเชฟเอง ว่างๆ ก็เล่นแอคคอเดียนให้ฟัง ร้านนี้เปลี่ยนเมนูทุกสัปดาห์ เช่น จานเรียกน้ำย่อย พาสต้า และเนื้อ มีประเภทละ 7 อย่าง ส่วนซุป ริซอตโต และของหวานมีประเภทละ 4 อย่าง เป็นต้น เมนูเด็ด พาสต้าเส้นแบนที่ร้านทำเองกับวอลนัทซอส และปาร์มาแฮม สปาเกตตีซีฟู้ดกับซอสมะเขือเทศ สเต๊กเนื้อวัวสไตล์อิตาเลียน ทีเด็ดคือ ออสโซ บูโค (Osso Buco) เนื้อหน้าแข้งวัวตุ๋นไวน์แดง โทร.0-2253-3190

เลส์ แนมเฟียส์ เลส์ แนมเฟียส์ (Les Nympheas)
โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22 เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสในโรงแรมที่ทำอาหารได้เนียนมาก เป็นอาหารฝรั่งเศสสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนคือเบาๆ เน้นพวกปลาและผักสดๆ มีน้ำมันมะกอกเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุง เชฟเป็นชาวกรีซมีประสบการณ์ในการทำอาหารฝรั่งเศสมากว่า 10 ปี เคยทำงานอยู่กับโรงแรม 5 ดาวมาเกือบทั่วโลก ผู้ใหญ่ระดับประเทศของบ้านเราหลายคนชื่นชอบฝีมือของเขามาก โทร.0-2261-9300

ให้ความรัก
อยู่ที่ถนนอุทยาน แขวงและเขตทวีวัฒนา ใกล้ๆ สะพานข้ามคลองทวีวัฒนา บรรยากาศร้านเก๋ไก๋ รายล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด สามารถเลือกนั่งได้ทั้งแบบธรรมชาติริมบึงน้ำและสนามหญ้าสีเขียวขจี หรือนั่งในบ้านหลังเล็กๆ ที่มีหลากหลายสี เช่น ฟ้า ส้ม ม่วง เหลือง และเขียว เมนูอาหารเป็นแบบไทยและจีนฮ่องกง เช่น ส้มตำปลาดุกฟู สลัดกระดาษฮ่องกง ปูเนื้อผัดพริกไทยดำ ปลิงทะเลผัดกะเพรากรอบ แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง ปลาทูโป๊ะต้มมะนาว ซี่โครงหมูอบกาแฟ หูหมูแก้วสูตรฮ่องกง บริการทุกวัน โทร.0-2441-1959

คุณตุ่ม
ร้านเล็กๆ แต่ร่ำรวยด้วยรสชาติอาหาร อยู่ที่ถนนเจษฎาวิถี ใกล้ๆ กับวัดเจษฎาราม มหาชัย เมนูเด็ด เช่น ปูไข่ผัดพริกขี้หนู กุ้งทอดเกลือ ปลาดุกทะเลผัดฉ่า ปลาทูต้มมะดัน หอยพิมทอดน้ำปลา หอยหลอดผัดฉ่า หอยแมลงภู่ผัดพริกแกง แกงส้มปลาแป้น แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง เป็นต้น เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น.สอบถามทางไปได้ที่โทร.0-3484-0465

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนิรนาม
ร้านแรกอยู่ที่ถนนสุขาภิบาล ลาดพร้าว-วังหิน เลยวัดลาดพร้าวไปเล็กน้อย ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อเป็นหลักมาประมาณ 22-23 ปี เดิมเรียกว่า ร้านเกาเหลาหูกวาง เนื่องจากข้างถนนหน้าร้านมีต้นหูกวางอยู่ ต่อมาถูกตัดทิ้งเพราะขยายถนน แต่ขาประจำหลายคนก็ยังเรียกเกาเหลาหูกวาง ขายประมาณ 08.00- 16.00 น. โทร.0-2931-6825
ร้านที่สองอยู่ริมถนนรางน้ำ หรือซอยรางน้ำ เดิม อยู่ตรงข้าม ธ.กสิกรไทย บางคนจึงเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อหน้าแบงค์ เมนูเด็ด เนื้อสด เนื้อเปื่อย และลูกชิ้นซึ่งไม่ได้ตุ๋นเครื่องยาจีน ขายทุกวัน (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 08.00-16.00 น. ร้านนี้ไม่ควรไปตอนเที่ยง เพราะคนจะเยอะมาก โทร.0-2246-4167

ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้าน "ไทโกะ” (Taiko)
แปลว่ากลองใบใหญ่ รสชาติญี่ปุ่นแท้ เมนูเด็ดมีหลายอย่าง สั่งวัตถุดิบมาจากต่างประเทศ เช่น แปะก๊วยย่างเกลือ ปลากระเบนญี่ปุ่นย่าง ยำปลาทู ปลาดิบ และ พิซซ่าญี่ปุ่น ร้านอยู่ชั้นล่างอาคารซิตี้รีสอร์ท กลางๆ ซอยสุขุมวิท 49 เปิดทุกวัน โทร.0-2662-5062-3 ฮานาย่ะ หรือ ฮานาย่า (Hanaya) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นร้านแรกของเมืองไทย อยู่ติดกับ บ.ชาร์ป ใกล้แยกเจริญกรุง ขายมาประมาณ 68 ปี เป็นเมนูสไตล์เกาะคิวชูหรือทางใต้ของญี่ปุ่น รสเข้มข้นและออกหวานนิดๆ แต่ไม่เลี่ยน เมนูเด็ดคือประเภทข้าวทั้งหลาย มีข้าวหอมมะลิผสมด้วย มี เบคอนปลาวาฬ ที่หากินยากในเมืองไทย ข้าวอัดปลาไหล หอยนางรมย่างมายองเนส เป็นต้น เปิดทุกวัน โทร.0-2233-3080 "โอโตยะ” (Ootoya) แปลว่าประตูบานใหญ่ อยู่ชั้น 2 อาคาร เอ อเวนิว (A Avenue) หัวมุมซอยทองหล่อ 15 เน้นขาย "อาหารญี่ปุ่นโฮมเมดแท้ๆ ราคายุติธรรมและคุ้มค่าที่สุด” เมนูมีให้เลือกมากกว่า 200 รายการ ราคาไม่แพง เช่น ข้าวหน้าหมูกิมจิ ข้าวหน้าหมูย่างถ่ายราดซอส และ หมูผัดเปรี้ยวหวานผักรวมมิตรเสิร์ฟพร้อมข้าว ผัดไก่เปรี้ยวหวานผักรวมมิตร ฯลฯ เปิดทุกวัน โทร.0-2712-6827 อะคิโยชิ” (Akiyoshi) ร้านชาบูชาบู และสุกี้ญี่ปุ่น อยู่ชั้น 2 อาคารไทยสินสแควร์ (Thai Sin Square) ระหว่างซอยสุขุมวิท 67-69 เป็นสุดยอดชาบูชาบูร้านหนึ่งในเมืองไทย คุณภาพเกินราคา วัตถุดิบดี น้ำจิ้มรสเด็ด เมนูเด็ด ชาบูชาบู และ สุกี้ญี่ปุ่น เปิดทุกวัน โทร.0-2741-0791

บ้านสวนพุด
อยู่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ร้านสวยบรรยากาศดี อาหารอร่อย เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน เพราะเป็นร้านที่นำบ้านเก่ามาปรับปรุงตกแต่งรูปโฉมใหม่ เมนูมีทั้งไทยและจีน ที่เด็ดๆ เช่น ปลาเก๋าสองจักรพรรดิ ยำผักหวานกุ้งสด ปลาช่อนน้ำตก ต้มยำพุงปลาช่อน ปูผัดพริกเกลือ รวมมิตรทะเลเผา และ หูฉลามเป๋าฮื้อตุ๋นน้ำแดง เป็นต้น เปิดทุกวัน โทร.0-2888-9458-9

จานทองแท้
เป็นอาหารจีนแคะที่หากินยากในบ้านเรา อยู่ที่พุทธมณฑลสาย 3 ไปตาม ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี เมื่อถึงพุทธมณฑลสาย 3 ก็เลี้ยวเข้าไปประมาณ 500-600 เมตร ความพิเศษของร้านนี้คือกุ๊กเก่าและเป็นกุ๊กรุ่นสุดท้ายจาก "ฮก ลก ซิ่ว” ภัตตาคารจีนชื่อดังย่านราชประสงค์ ที่เลิกกิจการไปแล้ว ต้องคนที่อายุเลข 5 ขึ้นไปจึงจะเคยกิน ฮก ลก ซิ่ว จานเด็ดที่มีขายที่นี่แห่งเดียวในเมืองไทยคือ ปลาเต๋าเต้ย 2 ฤดู เป็นสูตรจากมาเลเซีย นอกนั้นก็มี ผัดผักน้ำมันหอย ไก่เบตง เคาหยก ปูทะเลซุปน้ำใสหม้อไฟ เต้าหู้แคระยัดไส้หม้อดิน และ ลูกชิ้นแคระ เปิดทุกวัน โทร.0-2441-3523-4

ข้าวแกง
ข้าวแกงนายโย่ง อยู่ ถ.เยาวราช (ตลาดเก่า) หน้า ธ.กสิกรไทย ขายมาประมาณ 40 กว่าปี เมนูเด็ด แกงกะหรี่เนื้อหรือหมู-กุนเชียงทอด ผัดเผ็ดปลาดุก แกงกะหรี่หมู-กุนเชียงทอด แกงเผ็ดลูกชิ้นปลากราย ขายเวลา 19.00-04.00 น. และ 16.00-02.00 น.
ข้าวแกงนายหยวย ใกล้ไฟแดงข้าม ถ.ข้าวหลาม ขายมากว่า 20 ปี รสชาติเดิมๆ แบบโบราณ เมนูเด็ด เช่น แกงเขียวหวานปลาดุก แกงเผ็ดพุงปลาช่อน แกงเขียวหวานเนื้อ-เอ็น แกงคั่วลูกชิ้นปลา ขายเวลา 16.00-20.00 น.
ข้าวแกงเจ๊กปุ้ย (เจ๊เฉี่ย) อยู่ต้นๆ ซ.มังกร ถ.เจริญกรุง ขาประจำเยอะมาก ไม่มีโต๊ะมีเพียงเก้าอี้ให้นั่งด้านหลังเป็นห้องแถวเก่าๆ เมนูเด็ด แกงกะหรี่เนื้อ (กาหรี่หงูบะ) และ แกงกะหรี่หมู (กาหรี่ตือบะ) สูตรแต้จิ๋วไม่ใส่ถั่วลิสง เครื่องเทศไม่มาก ขายเวลา 16.00-21.00 น.
ข้าวแกงอั่งม้อ ถ.พาดสาย ใกล้ภัตตาคารตั้งใจอยู่ ขาย ข้าวแกงกะหรี่สไตล์แต้จิ๋ว มาประมาณ 70 ปี กะหรี่เนื้อใช้ส่วนเอ็นต้มเอง ส่วนกะหรี่หมูหั่นชิ้นโตหมักนุ่มมาก เวลาขาย 06.00-15.00 น.(หยุดวันอาทิตย์)
โค้วจั้วฮวด ถ.พีรพงษ์ ตรงข้ามดิโอลด์สยาม ขายมากว่า 50 ปี เป็นข้าวแกงสไตล์จีนรสชาติกลมกล่อม แต่น้ำแกงเข้มข้นแบบไทยๆ เช่น แกงกะหรี่หมูฟักเขียว แกงปลาช่อนฟักเขียว เป็นต้น มีข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ก๋วยเตี๋ยว***นด้วย ขายทุกวัน 07.00-16.00 น.
ข้าวแกงนายเล็ก ถ.มหาไชยเก่า ใกล้เรือนจำเก่ากรุงเทพฯ ข้างๆ ร้านนายเหมือนเครื่องหวาย เมนูเด็ด แกงเขียวหวานเนื้อเปื่อย แกงพะแนงหมู น้ำพริกกะปิ และ หมี่กรอบราดหน้าหมูสับ ขายทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น.

เดวา
อยู่ในซอยพหลโยธิน 7 แยกที่ 3 เป็นอาหารไทยวังเทวะเวสม์ จากฝีมือของหุ้นส่วนคือ ม.ล.ขวัญทิพย์ (เทวกุล) สามเสน ทายาทผู้สืบทอดตำรับอาหารไทยของวังเทวะเวสม์ได้ครบเครื่องมากที่สุด เพราะคลุกคลีอยู่กับครัวของวังมาตั้งแต่เด็กๆ เมนูอาหารจะเน้นแบบไทยชาววัง ไทยผสานเอเชียและไทยผสานตะวันตก เช่น แกงเนื้อพริกขี้หนู-โรตี ยำสลัดสโมคแซลมอน พล่าแซลมอน ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าสเต๊กริบอาย กะปิคั่วปลาช่อนฟู และ แกงขี้เหล็ก เป็นต้น เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น.โทร.0-2617-0041

ไซ่ง่อน ริมไทร
ร้านอาหารเวียดนาม ไซง่อน ริมไทร สาขาแรกในซอยทองหล่อ และสาขาสองอยู่ในสีลมซอย 6 ซึ่งบรรยากาศในร้านตกแต่งแบบตะวันออก เข้าไปแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน เมนูเด็ด เช่น กุ้งพันอ้อย หรือ จามโตม ยำไซง่อน ยำไก่บ้าน หมู-เนื้อห่อใบชะพลู แหนมเนือง ขนมเบื้องญวน ฟองดูว์ เวียดนาม เมี่ยงคำไซง่อน ปูกระเบื้อง เปาะเปี๊ยะทอด เป็นต้น เปิดทุกวันเวลา 10.00-22.00 น.

พิซซ่า เตาฟืน
ปัจจุบันพิซซ่าได้รับความนิยมและแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน แต่แฟนพันธุ์แท้พิซซ่า บอกว่าพิซซ่าอร่อยต้องเป็น พิซซ่า เตาฟืน หรือ พิซซ่า เตาถ่าน เท่านั้น และร้านที่อร่อยมีดังนี้ พิซเซเรีย ลิมอนเชลโล (Pizzeria Limoncello) เจ้าของคือเจ้าของร้านอิตาเลียน ซานอตติ ที่ซอยศาลาแดง เน้นขายพิซซ่าสไตล์เมืองนาโปลี (Napoli) กับคาปริ (Capri) มีพิซซ่าหน้าซอสมะเขือเทศให้เลือก 30 กว่ารายการทั้งเผ็ดและไม่เผ็ดที่ขายดีคือ พิซซ่าลิมอนเชลโล่ และ พิซซ่าซานอตติ สูตรพิเศษของย่าเจ้าของร้าน เปิดทุกวัน โทร.0-2651-0707 พิซเซเรีย เบลลา นาโปลี” (Pizzeria Bella Napoli) อยู่ซอยสุขุมวิท 31 เข้าซอยราว 100 เมตรทางซ้ายมือ พิซซ่าเป็นสูตรที่มาจากเมืองต้นตำรับ ขึ้นรูปแป้งพิซซ่าด้วยมือล้วนๆ ไม่ใช้ไม้คลึง เมนูเด็ด เช่น คือเบลลา นาโปลี พิซซ่า (Bella Napoli เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ โทร.0-2259-0405 ลันตา พิซซ่า เตาถ่าน (Lanta Pizza Taothan) กำเนิดจากเกาะลันตา จ.กระบี่ แล้วมาเปิดในกรุงเทพฯ อีก 4 แห่ง นอกจากจะอบด้วยเตาถ่านแล้ว ยังใส่ชีสเยอะ เมนูเด็ด เช่น พิซซ่า แคปริชิโอซ่า (Pizza Capricioza) พิซซ่ายอดนิยม พิซซ่า คาลโซเน่ (Calzone) พิซซ่าม้วน แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และ พิซซ่า นาโปลีตาน่า (Pizza Napolitana) เป็นต้น โทร.0-2235-2591

หูฉลาม
สกาล่า มีสาขาสยามสแควร์ ซอย 1 และสาขาปิ่นเกล้า
เซี้ย หูฉลาม ริมถนนเยาวราช ซอยร้านทอง ฮั่ว เซ่ง เฮง
เพ่ย เพ่ย อาคารชาเตอร์ สแควร์ ถ.สุรศักดิ์ แยกถนนสาทร หูฉลามน้ำข้น กุ๊กเก่าจากภัตตาคารฮันนี่ ที่สมัยก่อนดังมาก
ลิ้มกวงเม้ง หูฉลามน้ำใส ซ.จุฬาฯ 5
ไชน่าทาวน์ สกาล่า หูฉลามน้ำแดง ถ.เยาวราช สี่แยกเฉลิมบุรี
รื่นรส ซ.ทองหล่อ ขายมากว่า 50 กว่าปี อดีตนายกฯ ยุคพฤษภาทมิฬ 2535 เป็นขาประจำ
ไก่แก้ว ซ.ไผ่เงิน ตรอกจันทน์ ร้านเล็กๆ แต่ขาประจำคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
นิวเปงเชียง ซอย รร.พระแม่มารี ตรอกจันทน์ อดีตภัตตาคารใหญ่ที่สุด
กิมเจ็ง ซ.พัฒนาการ 20 สวนหลวง เคยได้กุ๊กจากร้านหูฉลามดังที่สุดที่ฮ่องกงมาช่วยทำ
หลังสวนหูฉลาม หลังสวนลุมพินี อยู่ระหว่าง ซ.หลังสวน 2-4
ตือ หูฉลาม ถ.เยาวราช ตรงข้ามไซโก้ เป็นหูฉลาม ราคาชาวบ้าน (300-500 บาท)
เล่าลี่หูฉลาม ถ.เยาวราชฝั่งขวา ใกล้ร้านทองสุพรรณ ราคาชาวบ้าน
เซี๊ยะหูฉลาม ถ.เยาวราช ฝั่งซ้ายมือ ใกล้ห้างทองโต๊ะกัง ราคาชาวบ้าน

2008/11/28

อิ่มเที่ยว – อิ่มกิน (ใน) เมืองสองแคว ตอนกิน...

ตัวเมืองพิ ษณุโลกนอกจากจะมีสถานที่เที่ยวให้ชมเพียบแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งกินแหล่งใหญ่ นี่กระมังที่ทำให้คนที่ไปเที่ยวจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงกันถึงกับกล่าวไว้ว่า “เที่ยวสุโขทัย กินพิษณุโลก” เพราะในตัวเมืองพิษณุโลกนั้นสามารถหาของกินได้ทุกมื้อ! ทั้งอาหารคาวหวาน ของกินเล่น มีให้เลือกกินแทบทุกมุม
คราวนี้มาเมืองสองแควทั้งที Metro Life เลยไม่พลาดตระเวนกิน...กิน... และกินแบบไม่ยั้งพร้อมรวบรวมร้านอร่อยมาฝากผู้อ่าน ให้มิพลาดตามไปกินกันให้พุงกางบ้างล่ะคราวนี้

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา สูตรโบราณ
ติดอกติดใจในรสชาติความอร่อย และที่นั่งแบบแปลก! ของร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาป้ากฐิน ถนนปลาบู่ทาน สูตรเฉพาะเมืองสองแคว เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำใสใส่หมูแดง หมูสับ หนังหมูต้ม กุ้งแห้ง ถั่วงอก ถั่วฝักยาวหั่น หรือผักคะน้า หอมเจียว และน้ำตาลปี๊บ
สำหรับชื่อที่มาของ “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” นั้น “แรกๆ ป้ากฐินใช้ชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวห้อยเท้า ต่อมาเป็นก๋วยเตี๋ยวห้อยเท้า แล้วสุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็นก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ทั้งนี้เมื่อก่อนเนื่องจากร้านอยู่ริมตลิ่ง จึงต้องปลูกร้านยกพื้นสูง และกั้นไม้เอาไว้ไม่ให้หลานตกน้ำ พร้อมกับขายก๋วยเตี๋ยวไปด้วย จึงทำให้ลูกค้าที่มานั่งกินต้องนั่งห้อยขา หันหน้าออกสู่แม่น้ำน่าน” เฉลียว แสงอรุณ เจ้าของร้าน ผู้สืบทอดตำนานความอร่อยจากป้ากฐินเล่าให้ฟัง
“ทีเด็ดนั้นอยู่ที่น้ำซุปเข้มข้นที่ต้มด้วยกระดูกหมู และเครื่องทุกอย่างที่ใช้ปรุงเน้นความสด สะอาด ไม่ว่าจะเป็นกากหมู ถั่วลิสงคั่วทำวันต่อวัน ส่วนรสชาติเผ็ดมากเผ็ดน้อย หวาน เค็ม ปรุงกันเองตามความชอบ”
ปัจจุบันนี้ใช้บ้านดัดแปลงเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้รับรองไม่ต้องรอนาน เพราะทางร้านเตรียมใส่เครื่องก๋วยเตี๋ยวรอไว้ในชาม เมื่อลูกค้าสั่งก็เพียงลวกเส้นใส่ลงไปในชามที่เตรียมไว้เท่านั้น
ม ีก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ ให้เลือกอร่อยตามสูตรโบราณ ต้มยำ เย็นตาโฟ หรือเพิ่มเนื้อสด เนื้อเปื่อย ตับ ตามต้องการ ราคากันเองชามละ 15 บาท พิเศษ 20 บาท เปิด 07.30 – 16.00 น. โทร. 0-6939-8689

ข้าวเหนียวหมูทอด ร้าน “เขาลือว่าอร่อย”
ร้านข้าวเหนียวหมูทอดชื่อ “เขาลือว่าอร่อย” ที่อร่อยสมคำเล่าลือ ตั้งขายเรียกลูกค้าอยู่ที่หน้าตลาดเทศบาล (เดิมตั้งอยู่ที่ถนนธรรมราชา หรือซอยข้าวเหนียว ก่อนย้ายเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา) มีหน้าข้าวเหนียวให้เลือกเป็น 10 อย่าง เรียกว่าเลือกกินกันแทบไม่ถูก
“ราคาห่อละ 10 บาทครับ เลือกหน้าได้ 2 อย่างหรืออย่างเดียวก็ได้ อาทิ หมูเค็ม หมูหวาน หมูทอดกระเทียม หมูกรอบ หมูสวรรค์ เนื้อแดดเดียว เนื้อฝอย หมูฝอย หมูปั้น (หมูบดผสมวุ่นเส้น) ลาบปลา ยำคอหมูย่าง ลาบหมู แหนมย่าง ปลาทอด กุนเชียงทอด หมูยอทอดฯ
เมื่อ 4 ปีก่อนขายเพียง 2 -3 อย่าง ภายหลังได้เอาเมนูทางอีสานมาผสมผสานเพิ่มจนเกิดความอร่อยๆ ติดปากติดใจคนพื้นถิ่นเช่นทุกวันนี้ ” ชรินทร์ โตพันธ์ปี เจ้าของร้านที่ตอนนี้สองมือวุ่นอยู่กับการหยิบกับหน้าต่างๆ โรยบนข้าวเหนียวพัลวัน เพราะตอนนี้ลูกค้าจำนวนมากกำลังยืนรอและยืนสั่งล้อมหน้าร้านรถเข็นเล็กๆ มิดไปหมด
“เคล็ดลับความอร่อยและขายดีคือ เน้นข้าวเหนียวอย่างดีคัดพิเศษ นึ่งกันใหม่ๆ กับ(หมู)ทำเองทุกอย่าง สูตรเดิมมาตรฐาน แม้ขายดีแค่ไหนผมก็ไม่ทำเพิ่ม หมดแล้วหมดg]p และข้าวเหนียวต้องห่อใบตอง ช่วยเพิ่มความหอม ไม่ติดห่อเวลากิน ก่อนห่อด้วยกระดาษพลาสติกหุ้มอีกชั้นนึง”
อร่อยแค่ไหนก็คิดเอาเองล่ะกันว่า ขายดีขนาดใช้ข้าวเหนียววันละ 5 ถัง ใครชอบของอร่อย ราคาถูกๆ อย่าลืมแวะไปชิมล่ะกัน โทร. 0- 1324 -2479

เปิบแมลงทอด โกอินเตอร์
ใครอยากเปิบแมลงกินเล่นแปลกๆ ต้องไปที่ “ร้านรวมแมลง พิษณุโลก” ที่ขึ้นป้ายว่าเจ้าแรกซะด้วย เปิดมานานกว่า 18 ปี ทอดกรอบๆ ตัวเหลืองๆ ซี๊ด... ด วางเรียงรายในถาดให้เลือกชี้นิ้วสั่งกินกว่า 20 ชนิด ไล่ตั้งแต่หนอนรถด่วน จิ้งหรีดตัวเล็ก แมงป่อง แมงดา แมงกระชอน ตัวไหม ตั๊กแตน เป็นต้น
ก็เจ้าของร้านสุดสวยบอกว่าแมลงพวกนี้ มาจากรอบๆ เมืองพิษณุโลก ชาวบ้านจับมาขายโดยวิธีใช้ไฟล่อ ไม่ได้ฉีดยา รับรองว่าปลอดภัย ไร้สารสารเคมีตกค้าง ส่วนเคล็ดลับความอร่อยนั้น อยู่ที่วิธีการทำ โดยนำแมลงทุกชนิดที่ได้มาต้องล้างให้สะอาดมากๆ และต้มจนสุก ก่อนเอาไปหมักกับเครื่องสูตรพิเศษ เมื่อทอดเสร็จก็ต้องคลุกเครื่องอีกทีหนึ่ง ซึ่งการทอดก็ต้องใช้น้ำมันใหม่ๆ ร้อนๆ ทุกครั้ง โดยกะเอาว่ามันสุกพอดีจึงตักขึ้น
เมื่อถามว่าแมลงพวกนี้กินแล้วมีผลดีต่อร่างกายหรือไม่ เธอบอกว่ามีแคลเซียมและโปรตีนสูง ยิ่งทุกวันนี้หนอนรถด่วนของเขา มีอัดกระป๋องขายและผ่าน อ.ย. แล้วส่งขายไปเมืองนอกด้วยนะ ส่วนแมงป่องตัวใหญ่ๆ ที่ขายก็ไม่มีพิษ กินง่ายๆ หรือถ้าอยากให้อร่อยเพิ่มขึ้นก็ฉีดซอส ใส่พริกไทยลงไปอีกนิดหน่อยก็พอ ราคาชั่งขายเป็นขีดหมดทุกอย่าง ยกเว้นแมงป่อง ตัวละ 10 บาท แมงดา 6 ตัว 20 บาท โทร. 0 - 5522 - 0310

อาหารมุสลิม ฟา – เค - ราห์
หอมฉุยกลิ่นเครื่องเทศลอยมาแต่ไกลในยามเช้าถึงเที่ยง เพราะร้านที่ว่าเขาขายอาหารอิสลามล้วนๆ เรียกว่ามีแต่เมนูเด็ดๆ ให้ชิมทั้งแกงกะหรี่เนื้อ กะหรี่ไก่ ข้าวหมกไก่ ซุปหางวัว
“จุดเด่นอยู่ที่ความสะอาดของร้าน อาหารก็ใหม่ๆ และสด ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม” สุภดา น้อยวงศ์ เจ้าของร้านเล่าอย่างเป็นกันเอง
ถามว่าอาหารสุดยอดอร่อยของอาหารอิสลามร้านนี้จานไหนหรือ เธอตอบกลับทันทีว่า ต้องข้าวหมกไก่ สิ เพราะเน้นเครื่องเทศ เนื้อไก่นุ่ม จิ้มน้ำจิ้มและอาจาดสุดอร่อยๆ ซุปหางวัวก็เป็นอีกอย่างที่อร่อยไม่แพ้กัน ขายจานละ 25 -30 บาท
ส่วนตกบ่ายแก่ๆ ตั้งแต่ 3 โมงเย็นเป็นต้นไป ทางร้านจะเปิดขายโรตี และมีนมแพะสด เครื่องดื่มจำพวก ชากาแฟ ขายพร้อมกันด้วย ขั้นตอนการทำโรตีให้อร่อย ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ว่านวดแป้งให้นิ่ม ทำแล้วออกมาแล้วขายเลย ไม่มีค้าง ขายแผ่นละ 5 บาท โรตีใส่ไข่ ราคา 12 บาท ใส่กล้วยราคา 17 บาท โรตีมะตะ 20 บาท เครื่องดื่มแก้วละ 10 บาท
ข้าวราดแกงเปิดบริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยง โรตีเปิดบ่าย 3 ถึง 3 ทุ่ม ตั้งอยู่ 52/ 2 ถนนพระองค์ดำ โทร. 0-5521-1400

ปาดตาลสด กินตาลฉ่ำ ย่านวัดโบสถ์
ยืนดูแล้วก็เสียววาบแทนไม่น้อยกับภาพลิบๆ เบื้องหน้า ขณะที่ชายวัยกลางคนกำลังใช้สองมือแข็งแรงปีนขึ้นต้นตาลสูงลิบลิ่วพร้อมพร้าเ หน็บบั้นเอวและกระบอกใส่น้ำตาล เพราะที่ ต.วัดโบสถ์ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกตาล ปาดตาล และแปรรูปผลิตภัณฑ์น้ำตาลสดออกวางจำหน่ายเป้นที่เรียบร้อย
ชาวบ้านคนที่ปีนตาลเมื่อสักครู่เล่าว่า “ ขึ้นไปถึงยอดตาลแล้วก็จะใช้ไม้นวด (หนีบ)พวยตาล (ตาลตัวผู้เรียกพวยตาล – ตัวเมียเรียกทะลาย) ให้นิ่มก่อนปาดทุกครั้ง และใช้มีดปาดพวยตาลเป็นสามเหลี่ยมตรงปลาย แล้วเอากระบอกไม่ไผ่รองน้ำตาลไว้ทั้งคืน ซึ่งตาลตัวเมีย จะให้น้ำตาลรสชาติดีกว่า หวานกว่า เก็บไว้ได้นานกว่า ตัวผู้ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ไม่เท่าตัวเมีย
สำหรับตาลที่จะตัดได้นั้น ต้องอายุประมาณ 15-20 ปี และดอกต้องยาวประมาณศอกถึงจะปาดได้ ดอกหนึ่งตัดได้ประมาณ 2 -3 เดือนยิ่งช่วงมีนา - เมษา น้ำตาลจะเยอะมาก ส่วนหน้าฝนน้ำตาลมีน้อย และต้องระวังเรื่องฝนตกด้วย ซึ่งขายกันลิตรละ5 บาท ก่อนแม่บ้านเกษตรกรนำมาแปรรูปเป็นน้ำตาลสดบรรจุขวด น้ำตาลผง
ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีลูกตาลอ่อนๆ ปอกสดๆ รสหวานฉ่ำ และน้ำตาลปึก ขายต่างหากด้วย สนใจไปชิมโทร. 0-5529-1526

ศรโภชนา “ต้มเลือดหมู” สูตรเด็ด
เติมความอร่อยยามเช้าในเมืองสองแควกับต้มเลือดหมูร้อนๆ รสกลมกล่อม ที่ร้านศรโภชนา ย่านถนนศรีธรรมะไตรปิฎก
“เปิดขาย 15 ปีแล้ว ทว่าเน้นขายต้มเลือดหมูเป็นหลัก แต่ก็ขายอาหารตามสั่งควบคู่กันไป” ทัศนีย์ วงศ์ไพโรจน์ เจ้าของร้านบอกกับเรา
สำหรับเคล็ดลับความอร่อยของต้มเลือดหมูเธอบอกว่า วัตถุดิบพวกเลือด ตับ ไส้ เซี่ยงจี้ ม้าม หมูสับ และอื่นๆ ต้องสด สะอาด ไม่มีกลิ่นคาว เวลาลวกก็ลวกแค่พอสุข ไม่ใช่ปล่อยจนแห้งหมดสีเลือด
อีกทั้งต้มเลือดหมูที่ขายทั่วๆ ไปเขาจะใส่ผักที่หาง่ายเช่น ตำลึง ขึ้นไฉ่ฯ แต่ทางร้านจะใช้ผักจิงจูฉ่าย (ใบเรียวยาว สีเขียว) ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรของคนจีน ช่วยดับกลิ่นคาวเลือดหมู ส่วนน้ำซุปก็เป็นน้ำที่ใช้ลวกเครื่องใน หมู ซึ่งลวกบ่อยๆ นานๆ น้ำก็จะหวานกลมกล่อมขึ้นเอง หรือใครชอบปรุงเพิ่มเติมเราก็มีเครื่องปรุงเตรียมไว้ให้
ที่สำคัญการบริการต้องเป็นกันเอง เน้นความสะอาด และราคาย่อมเยา เปิดขายตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงประมาณบ่าย 3 โมงเย็น ราคาชุดละ 30 บาท (ข้าว+ต้มเลือดหมู) โทร.0-5525-1933

ส้มตำเรือนไทย
เพราะความแปลกบวกกับความอร่อยๆ (แซ่บ...บ อย่าบอกใคร)จึงทำให้ร้านส้มตำเรือนไทย ขายดิบขายดีมีลูกค้าติดใจมาอุดหนุนตรึม!!!
พูดถึงรูปทรงรถที่เป็นจุดดึงดูดสายตาลูกค้า เจ้าของร้านวัยกลางคนที่ตอนนี้ตำส้มตำขายลูกค้า บอกกับเราว่า เดิมทีมีอาชีพช่างมาก่อน ต่อมาเปลี่ยนมาขายส้มตำรถเข็น เข็นขายไปเรื่อยๆ มีวันหนึ่งไปเห็นบ้านทรงไทยในหนังสือ เลยมีไอเดียว่าถ้าเราดัดแปลงรถเป็นบ้านทรงไทยขายส้มตำ คงจะแปลกไม่เหมือนใคร เมื่อเอาออกมาขายก็มีคนชมว่าแปลกดี แถมมีที่วางของเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก
ที่นี่มีส้มตำรสเด็ดให้เลือกสารพัด ไม่ว่าจะเป็น ตำมะม่วงปลาย่าง ตำแครอท ตำปู ตำปลาร้าฯ น้ำปลาร้าก็หมักเองกับมือ ขอบอกว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิด ตำอย่างเดียวคิด 15 บาท ตำสองอย่างคิด 20 บาท นอกจากนี้แล้วยังมีไก่ย่างขายคู่กันด้วย
เปิดขายอยู่ 2 ที่ ช่วงเช้าเวลา 11.00 – 17.00 น. ขายอยู่ที่ตลาดเทศบาล 3 ช่วงเย็นย้ายไปขายที่สถานีรถไฟ ตลาดเทศบาล 6 เวลา 17.00 – 23.00 น. โทร.0-9272-4114

Tags

tag:รวมรายละเอียดแนะนำร้านอาหารจานเด็ด ร้านอาหารอร่อย สุดยอดอร่อย เมนูอร่อย ร้านอร่อยเด็ด อร่อยกลางคืน อร่อยหากินยาก แปลกอร่อย ต้องลิ้มลอง อร่อยถูก อร่อยมาก อาหารเยาวราช เว็บร้านอาหาร ร้านอาหารน่ารัก ร้านอาหารน่าทึ่ง ร้านอาหารในกรุงเทพ ร้านอาหารบุฟเฟ่ ร้านอาหารบรรยากาศดี ร้านอาหารไทย กรุงเทพ แนะนำร้านอาหาร,Thai Food, Thai restaurent , food shop, Thai food delicious, Thai food Cheap, Thai Dinner food, Chaina town food in Bangkok or Buffet.